เทรนด์ของสกินแคร์ปี 2022

ในประเทศไทยนั้น ตลาดสกินแคร์เรียกได้ว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงวิกฤตินี้ อันเนื่องมาจากผู้คนส่วนใหญ่ทำงานจากที่บ้าน ทำให้หลายคนหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น และเป็นวิถีทางการคลายเครียดรูปแบบหนึ่ง นั้นเท่ากับทำให้แบรนด์เครื่องสำอางต่าง ๆ สามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น และถึงแม้มีจะมีวิกฤติแค่ไหน แต่ก็มีเจ้าของแบรนด์มือใหม่หลายคนสนใจและอยากสร้างแบรนด์สกินแคร์ ครีม หรือเครื่องสำอาง วันนี้ทาง Richway Cosmet  จะพาทุกท่านไปส่องมาดูเทรนด์ความงามในปี 2021 นี้กันว่ามีเทรนด์อะไรบ้างที่กำลังมาแรง และเทรนด์อะไรบ้างที่เราสามารถนำเป็นไอเดียในการสร้างแบรนด์สกินแคร์ หรือเครื่องสำอางต่าง ๆ

สกินแคร์กลายเป็นสินค้ายอดนิยม

สกินแคร์บำรุงผิวหน้านั้นครองสัดส่วนตลาดถึง 19% ซึ่งเกิดจากความต้องการที่จะมีผิวหน้าที่เปล่งปลั่งโดยไม่ต้องแต่งหน้า และความกังวลเรื่องความแก่และริ้วรอยต่าง ๆ เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ซึ่งผู้บริโภคหลายคนมองว่าการใช้สกินแคร์นั้นเป็นการผ่อนคลาย จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สินค้าประเภทสกินแคร์ได้รับความนิยมสูงขึ้น

โดยสินค้าประเภทสกินแคร์นั้นอาทิ มอยเจอไรเซอร์ ครีมล้างหน้า เซรั่ม และผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว จัดเป็นสินค้าขายดี โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่นั้นมองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน วิตามินซี หรือน้ำมันกัญชา (CBD) ซึ่งกลายเป็นคำค้นยอดฮิตในปัจจุบันเมื่อผู้บริโภคมองหาสกินแคร์

สินค้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมียอดขายเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมถือเป็นเทรนด์ที่มีกระแสมากพอสมควร เนื่องจากเหล่าผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งที่รับประทานและใช้บนร่างกาย ซึ่งเกิดมาจากการที่สินค้าความงามและสินค้าที่ไม่เกี่ยวกับความงามมีส่วนประกอบของสารเคมีที่ไม่พึงประสงค์และส่วนผสมของฟิลเลอร์

โดยสารเหล่านี้เป็นเป็นสารอันตรายต่อผู้ใช้ และสิ่งแวดล้อมเพราะสารที่ร่างกายไม่ได้ดูดซึมไปให้ประโยชน์ก็จะกลายเป็นสารตกค้างในระบบหมุนเวียนในร่างกายของเรา ผู้บริโภคจึงหันมาพิจารณาสินค้าที่ตัวเองเลือกใช้ แม้บางกลุ่มจะยังไม่สนใจ แต่สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับคลีนบิวตี้ยอมที่จะจ่ายด้วยราคาที่สูงกว่าเพื่อได้สิ่งที่ดีต่อร่างกาย

ซึ่งเจ้าของแบรนด์หลายรายก็เริ่มหันมาใช้กลยุทธ์ทางการตลาด “Green watching” ซึ่งสินค้าจะมีฉลาก ทำจากธรรมชาติ, คลีน, กรีน หรือเป็นมิตรต่อธรรมชาติ แม้ว่าคุณสมบัติของสินค้าชิ้นนั้นจะไม่เป็นไปตามเกณฑ์ก็ตาม ซึ่งเกิดเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์ เพราะมีแบรนด์ที่เอาเปรียบผู้โภค ที่มองหาสินค้าจากธรรมชาติจริง ๆ

DIY Beauty

เมื่อร้านเสริมสวยกลายเป็นธุรกิจที่ไม่จำเป็น ร้านเสริมสวยจำนวนมากต้องปิดร้านเป็นเวลาหลายเดือนเมื่อต้นปี 2563 ทำให้ผู้บริโภคต้องรู้จักที่จะดูแลตัวเองเมื่ออยู่บ้าน เทรนด์สินค้า DIY เช่น อุปกรณ์ตกแต่งเล็บ แว็กซ์ น้ำยาย้อมผม เซ็ตบำรุงผิวหน้า กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยสินค้ากำจัดขนมียอดขายเพิ่มขึ้น 97% และสินค้าเกี่ยวกับเล็บมียอดขายเพิ่มขึ้น 175%

เจลล้างมือที่ทำให้ผิวสุขภาพดี

เจลล้างมือนั้นอาจไม่เข้าพวกกับผลิตภัณฑ์ความงาม แต่หลาย ๆ แบรนด์ที่เกี่ยวกับความงามจำนวนมากก็เริ่มหันมาพัฒนาสินค้าจำพวกนี้ให้เกี่ยวข้องกับความงามมากขึ้น เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมหลักที่ทำให้การฆ่าเชื้อเกิดประสิทธิภาพ แต่ก็มีผลข้างเคียงให้มือแตกและแห้งกร้าน จึงเป็นโอกาสให้เจลล้างมือบำรุงผิวเติบโตเพิ่มขึ้นมากในปี 2563

สินค้าที่ป้องกันสิวจากหน้ากาก

การใส่หน้ากากเป็นประจำต่อเนื่องเป็นเวลานานเป็นสาเหตุของการเกิดสิว โดยเฉพาะสิวจากหน้ากากหรือ mask แบรนด์จำนวนมากเริ่มพัฒนาสินค้าที่ป้องกันการเกิดสิวจากหน้ากาก เช่นหน้ากากที่ผลิตมาจากวัสดุที่หลากหลาย แต่สามารถระบายอากาศและป้องกันแบคทีเรียได้ หรือสกินแคร์ที่ช่วยลดการเกิดสิว

ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่เป็นมิตรต่อหน้ากากอนามัย

ผู้คนในหลายประเทศทั่วโลกต่างใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกจากบ้าน ผู้ที่ชื่นชอบการแต่งหน้าจึงจำเป็นต้องเลือกใช้เมคอัพแบบ Mask-friendly คือใช้แล้วติดทน ไม่เลอะติดหน้ากากอนามัยนั่นเอง เมื่อสวมหน้ากากอนามัย ใบหน้าของเราจะถูกปิดตั้งแต่จมูกลงมา จึงเป็นโอกาสให้ดวงตา ขนตา และคิ้ว ได้อวดโฉม ดังนั้นผลิตภัณฑ์อย่างอายแชโดว์ บลัชออน ขนตาปลอม คอนซีลเลอร์ และมาสคาร่า จึงกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

การดูแลหนังศีรษะ เริ่มได้รับความสนใจ

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าผู้บริโภคหลายคนหันมาสนใจดูแลสุขภาพผิวกันมากขึ้น ความสนใจนี้ได้ขยายไปถึงเส้นผมและหนังศีรษะด้วยเช่นกัน Trichology เป็นศาสตร์เกี่ยวกับหนังศีรษะโดยเฉพาะ ซึ่งเกิดขึ้นจากกลุ่มคนที่นำเอาวิทยาศาสตร์มาใช้ดูแลหนังศีรษะ

โดยมีแนวคิดพื้นฐานคือการสร้างการเติบโตของเส้นผมอย่างมีสุขภาพ ลดปัญหาหนังศีรษะแห้ง และเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมของหนังศีรษะผลิตภัณฑ์ความงามเกี่ยวกับหนังศีรษะที่มีการพัฒนาขึ้น เช่น แชมพูดีท็อกซ์หนังศีรษะ ครีมบำรุง แชมพูทำความสะอาดแบบล้ำลึก เซรั่ม และครีมบำรุงผสมคาเฟอีน เป็นต้น

ความหลากหลายกำลังมา

แม้ว่าปัจจุบันจะมีผลิตภัณฑ์แต่งหน้าสำหรับคนสีผิวต่าง ๆ มากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาแบรนด์เครื่องสำอางมีแนวโน้มพัฒนาผลิตภัณฑ์มาเพื่อสาวผิวขาวซึ่งเป็นคนส่วนน้อยในตลาด แต่นับจากนี้เทรนด์ที่กำลังมาแรงคือเรื่องความหลากหลายของเมคอัพสำหรับคนทุกผิว

ซึ่งเมคอัพที่หลากหลากไม่ได้มีแค่เรื่องเฉดสีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาเพื่อผิวประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผิวบอบบาง ผิวมัน ผิวแห้ง และผิวผสม ก็มีผลิตภัณฑ์ที่ทำออกมาเพื่อความต้องการที่แตกต่างกัน

สรุป

เทรนด์ความงามนั้น ถือเป็นหนึ่งเทรนด์ที่เหล่าของเจ้าของแบรนด์จะต้องติดตามอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นเทรนด์ที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตามความต้องการ หรือไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค รวมไปถึงกระแสในแต่ละช่วงด้วย เพราะกระแสเหล่านั้นก็มีผลกับแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์เช่นกัน อาทิกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อม เหล่าผู้บริโภคก็จะมองหาผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นต้น

แหล่งที่มา : www. th.alibabanews.com