Spam พฤติกรรมที่น่ารำคาญบนโลกออนไลน์

วันนี้ขอนอกเรื่องเครื่องสำอางกันนิดนึงนะคะท่านผู้อ่าน มาพูดคุยกันเรื่องความรู้รอบตัวกันบ้าง เชื่อว่าคุณผู้อ่านคงจะเคยได้ยินคำว่าสแปม ซึ่งการถูกสแปมสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโลกได้เข้าสู่ยุคโซเชียลมีเดีย การถูกสแปมไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

spam

Spam คืออะไร

ตามการจำกัดความของ Collins CUBUILD Dictionary ได้อธิบายไว้ประมาณว่า  “พฤติกรรมการสแปมผู้คนและองค์กร หมายถึงการส่งอีเมลล์ที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์เป็นจำนวนมากไปยังผู้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการโฆษณา” การสแปมสมัยนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะช่องทางการส่งอีเมลล์เท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงช่องทางอื่นๆได้อีกเช่นกัน ช่องทางการสื่อสารของโลกยุคปัจจุบันอย่างโซเชียลมีเดียก็ถูกใช้สำหรับการสแปมด้วยเช่นกัน

spam-2

 Spam แล้วผู้กระทำจะได้อะไร

เรื่องนี้อาจเป็นคำถามในใจของคุณผู้อ่าน ก็ในเมื่อการสแปมมันคือพฤติกรรมที่สร้างความรำคาญมากกว่าการทำให้เป็นจุดสนใจ แล้วทำไมถึงยังมีการพยายามสแปมกันอีก หลักการนั้นง่ายมาก การสแปมเป็นรูปแบบของการลงทุนโฆษณาที่ต่ำที่สุด เห็นผลง่าย เน้นปริมาณการส่งข้อความเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะส่งข้อความไปนับร้อยข้อความ แต่อย่างน่อยจะมีคนติดกับดักกลับมาบ้าง ยิ่งส่งข้อความไปหาผู้รับได้มากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสที่คนจะเข้าถึงสินค้าและบริการได้มากขึ้น แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะรำคาญและลบข้อความนั้นๆทิ้งไป

spam-3

ผู้ส่งข้อความ Spam ทราบที่อยู่ผู้รับปลายทางได้อย่างไร

ปกติแล้วที่อยู่ผู้รับข้อความปลายทางไม่ใช่จะถูกรวมรวมมาไว้ในมือของผู้ส่งได้เป็นจำนวนมากโดยง่าย ถ้าหากเป็นที่อยู่อีเมลล์ของนักธุรกิจผู้มีชื่อเสียงจะสามารถค้นหาได้ไม่ยาก ถ้าหากเป็นที่อยู่ของคนธรรมดาทั่วไปไม่มีชื่อเสียงก็ค้นหาไม่ได้ง่ายๆ รวมถึงแอคเค้าท์ส่วนตัวของคนธรรมดาทั่วไปจากแอปพลิเคชั่นที่สามารถส่งข้อความอย่างเช่น Line, WhatsApp, Instagram ก็ไม่สามารถค้นหาได้โดยง่ายเช่นกัน แต่มันมีการซื้อขายข้อมูลส่วนตัว เมื่อคุณผู้อ่านไปสมัครอะไรไว้ก็ตามที่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อใช้ในการติดต่อ บางครั้งผู้รับสมัครอาจคิดไม่ซื่อนำข้อมูลที่รวบรวมมาได้ไปขายต่อให้กับผู้อื่น ซึ่งเรื่องนี้ผิดกฎหมาย

spam-4

แนวทางการป้องกันอย่างง่าย

ไม่มีแนวทางการป้องกันสแปมได้เต็มร้อยค่ะ มีแต่เพียงแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้พบกับความเสี่ยงที่น้อยลง เดี๋ยวจะขอนำเสนอพอเป็นแนวทางให้นะคะ

  • พยายามอย่าใช้อีเมลล์ที่มีความสำคัญต่อการทำงานไปใช้สมัครบริการต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน เพราะสมัยนี้ต้องมีอีเมลล์เพื่อผูกกับบริการต่างๆ การใช้อีเมลล์สำรองเพื่อไปสมัครใช้บริการต่างๆถือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดีค่ะ
  • เมื่อได้รับข้อความสแปม พยายามอย่ากดเข้าไปดูลิงค์ต่างๆที่แนบมา เพราะผู้ส่งสแปมมักจะมีการเก็บรวบรวมฐานข้อมูลการตอบรับจากปลายทางเอาไว้อยู่แล้ว การกดตอบรับอาจส่งผลให้กลายเป็นเป้าหมายระยะยาวจากการถูกสแปม
  • พยายามอย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ถ้าไม่มีความจำเป็น เพราะโลกออนไลน์ไม่ใช่สถานที่สวยงาม มีทั้งคนดีและคนชั่วปะปนกันไป ข้อมูลส่วนตัวของคุณผู้อ่านอาจจะไปปรากฏอยู่ในรายชื่อเป้าหมายของผู้ส่งข้อความสแปมได้โดยไม่ยาก
  • พยายามอย่าใช้ซอฟแวร์หรือแอปพลิเคชั่นละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะว่าอาจจะมีของแถมมาด้วย ผู้นำแอปพลิเคชั่นละเมิดลิขสิทธิ์มาเผยแพร่อาจทำการแฝงโค้ดโปรแกรมลงไปเพื่อใช้เก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆในคอมพิวเตอร์ และอาจนำข้อมูลนั้นไปใช้สำหรับการส่งสแปมหรือนำไปขายต่อ

จะเห็นได้ว่าการสแปมนั้นอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิดนะคะ อาจจะดูไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ผลกระทบที่ตามกลับมาอาจมีมากกว่าที่คิดค่ะ ฉะนั้นรู้ทันไว้ก่อนจะดีกว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง คำกล่าวนี้ยังเป็นจริงเสมอค่ะ